ไม่ต้องสมบูรณ์แบบก็ได้...
ผมสะดุดตาคำนี้บนปกหนังสือเล่มหนึ่ง ถึงกับซื้อมาอ่าน เป็นหนังสือเกี่ยวกับ อิคิไก ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่าคืออะไร แต่ซื้อมาเพราะหน้าปกจริง ๆ เพราะมีคำที่เป็นวรรคทองที่น่าสนใจคือ
กินน้อย ๆ ออกกำลังกายบ้าง ไม่ต้องสมบูรณ์แบบก็ได้...
ผมจึงได้คิดว่าคนเรามักรออะไรบางอย่างให้เป็นอย่างที่คิดก่อนแล้วจึงลงมือทำ ทั้งที่จริงแล้วหลายอย่างเริ่มทำไปเลยก็ได้ อย่าไปคำนึงถึงความสมบูรณ์แบบมากนัก ทำแล้วค่อย ๆ ปรับแก้ไขไปเรื่อย ๆ แบบนี้จะดีกว่าการรอไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมเริ่มทำสักที
ถ้าดูรูปภาพที่ผมนำมาไว้ที่ด้านบน เป็นภาพที่มีความหมายดีนะ จิ๊กซอว์ + ภาพเงิน ซึ่งเข้ากับแนวคิดนี้พอดี หากเราต้องการเงินแล้วไม่เริ่มต้นต่อจิ๊กซอว์เลย ก็คงจะเป็นภาพเงินขึ้นมาไม่ได้
แนวคิดเรื่องความสมบูรณ์แบบ ผมมองว่ามันมีอยู่ 2 อย่างคือ
1. การรอให้ความสมบูรณ์แบบเกิดขึ้นก่อน แล้วจึงทำสิ่งที่ต้องการต่อไป
2. การทำสิ่งต่าง ๆ โดยมุ่งหวังความสมบูรณ์แบบ
ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี่แหละที่ทำให้คนเราเกิดความเครียดสูงโดยไม่จำเป็น ถามว่าความสมบูรณ์แบบดีไหม ก็แล้วแต่มุมมองและแล้วแต่เรื่อง เรื่องบางเรื่องก็ต้องการความสมบูรณ์แบบมากที่สุด เช่น การเย็บแผลผ่าตัด หรือ การสับรางรถไฟ ซึ่งจะผิดพลาดไม่ได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แบบขนาดนั้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือการรู้จักยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบบ้าง ผมชอบคำที่พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อวัดท่าซูง) สอนอยู่เสมอ คือ การยอมรับกฎธรรมดา ท่องคำสอนนี้ไว้เสมอ มองทุกสิ่งว่ามันก็เป็นเช่นนั้น เป็นธรรมดา
ถ้าวันหนึ่งมีอะไรที่ไม่เป็นไปดั่งใจของคุณ ฝนตกตอนจะกลับบ้านทำให้คุณติดแหง่กในออฟฟิศ ก็อย่าไปซีเรียสเคร่งเครียดอะไรมาก มันเป็นธรรมดาของธรรมชาติ
หรือคุณล้างรถมาใหม่ ๆ แล้วนกมาขี้ใส่กระจกหน้ารถทันที แบบนี้ก็ธรรมดา
คนเราจะทำผิดพลาดบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เสือหรือสิงโต ไม่ได้ล่าสัตว์ได้ทุกครั้ง หลายครั้งมันก็วืด ไล่สัตว์ไม่ทัน เจอยีราฟเตะ เจอเขาควายขวิด Nobody's perfect ไม่มีใครสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว
ลี้คิมฮวง (จากนิยายเรื่องฤทธิ์มีดสั้นหรือเซียวลี้ปวยตอ) ก็เคยบอกว่ากว่าจะขว้างมีดได้แม่นยำ ก็ทำพลาดมาไม่น้อย ต้องฝึกฝนอย่างหนัก...
หลายคนไม่กล้าเริ่มต้นทำอะไร เพราะกลัวไม่สมบูรณ์แบบ กลัวไม่สำเร็จดั่งใจต้องการ ก็ต้องบอกว่าอย่าไปกลัว ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มทำเลย หากมันจะไม่สำเร็จ หากมันจะไม่สมบูรณ์แบบ ก็เป็นธรรมดา ไม่เป็นไร ปรับปรุงแล้วทำต่อไปเรื่อย ๆ
ถ้าใครเคยขับรถ จะรู้ว่าความไม่แน่นอนมันมีอยู่ตลอดเวลา ทุก ๆ เซนติเมตรของถนน มันมีความแปรเปลี่ยนตลอด ครูสอนขับรถจะสอนในเรื่องการแต่งพวงมาลัย หมายถึงมือของคุณจะไปยึดแน่นจับพวงมาลัยให้อยู่กับที่ตลอดเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ และไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะจะเกร็งและทำให้รถไม่ตรงทางแน่นอน แต่ให้จับพวงมาลัยแบบสบาย ๆ สังเกตการเคลื่อนที่ไปของรถและแต่งพวงมาลัยขยับไปมาซ้ายบ้างขวาบ้างทีละนิด รถก็จะวิ่งได้ตรงทางตามต้องการ
ยิ่งถ้าใครเดินทางท่องเที่ยวไปแต่ละจังหวัด จะพบว่าเพราะความไม่สมบูรณ์แบบนี้เองที่ทำให้การเดินทางสนุก การได้เจออะไรแปลกใหม่ เส้นทางใหม่ ๆ ผู้คน สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่อยู่ในแผนการเดินทาง เพราะไม่มีอะไรจะสมบูรณ์แบบตามแผนเป๊ะ ๆ อยู่แล้ว ทั้งเส้นทาง สภาพแวดล้อม สภาพอากาศ หรือบางทีก็หลงทางแต่กลับไปเจอจุดชมวิวที่สวย ๆ
ถ้ามัวแต่กลัวอุปสรรค ไม่เริ่มเดินทางเลย ก็ไม่มีทางถึงจุดหมายแน่นอน
ดังนั้นแล้วความสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่มีได้ แต่ไม่ต้องมีในทุกเรื่อง และเรื่องส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบ แต่กลับต้องการความเข้าใจและปล่อยวาง อย่าตีกรอบที่แน่นหนาให้กับการลงมือทำ ถ้าคิดว่าสิ่งที่จะทำนั้นมันดี มันทำให้สุขใจ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นการทำเพื่อประโยชน์ตัวเองแล้ว ก็ทำไปเลยครับ วารีไม่คอยท่า กาลเวลาไม่คอยใคร...
ก่อนจบบทความ ผมขอนำภาพวงกลม ZEN มา ว่าความกลมนั้นมันไม่ใช่ว่าต้องกลมดิ๊ก กลมเป๊ะ เส้นเท่ากันเสมอไป มันเกินจากลายของแปรง มันสวย สวยเพราะอะไร เพราะมันไม่ได้กลมโดยสมบุรณ์ มันไม่ได้มีเส้นขนาดเท่ากันเป๊ะ นี่แหละคือความสวยงามของความไม่สมบูรณ์แบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น